Milan Fashion Week 2019: Dolce & Gabbana’s Dramatic Cultural Clash and its Lasting Impact on the Fashion Industry

Milan Fashion Week 2019: Dolce & Gabbana’s Dramatic Cultural Clash and its Lasting Impact on the Fashion Industry

การแสดงโชว์ในงาน Milan Fashion Week ปี 2019 ของ Dolce & Gabbana นั้นไม่ใช่แค่การนำเสนอคอลเลกชั่นเสื้อผ้าใหม่ที่งดงามเท่านั้น แต่เป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดทางวัฒนธรรมอย่างรุนแรง

Dolce & Gabbana เป็นแบรนด์แฟชั่นของอิตาลีที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องการออกแบบเสื้อผ้าหรูหราและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว Stefano Gabbana และ Domenico Dolce ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ได้สร้างสรรค์คอลเลกชั่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมของจีนมาอย่างต่อเนื่อง

ในปี 2019 Dolce & Gabbana ได้จัดงาน Milan Fashion Week โดยมีการโชว์คอลเลกชั่น “The Great Beauty” ซึ่งตั้งใจจะฉลองถึงความงดงามของอารยธรรมจีนโบราณ

อย่างไรก็ตาม การนำเสนอชุด และแคมเปญโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับคอลเลกชั่นนี้กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากคนจีนและกลุ่มผู้สนับสนุนความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ

เหตุการณ์การประท้วง

เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อ Dolce & Gabbana ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ถูกมองว่าเป็นการเหยียดหยามและเสียดสีเชื้อชาติจีน คลิปดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงโมเดลชาวต่างชาติที่พยายามกินอาหารอิตาเลียนด้วยตะเกียบอย่างยากลำบาก

นอกจากนี้ ยังมีข้อความในแคมเปญโฆษณาของ Dolce & Gabbana ที่ถูกมองว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติและดูถูกวัฒนธรรมจีน

คำถามที่นำมาใช้ในการโฆษณานั้นถูกมองว่าเป็นการเสริมสร้างภาพจำเชิงลบเกี่ยวกับคนจีน และทำให้เกิดความไม่พอใจอย่างมากจากชาวจีนทั่วโลก

ผลกระทบต่อ Dolce & Gabbana

การประท้วงและเสียงวิจารณ์ที่รุนแรงส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อ Dolce & Gabbana

  • การยกเลิกงานโชว์: ในที่สุด Dolce & Gabbana ก็ต้องยกเลิกงาน Milan Fashion Week 2019 เนื่องจากการประท้วงของชาวจีน

  • การสูญเสียความนิยม: ชื่อเสียงของแบรนด์ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ลูกค้าชาวจีนจำนวนมากที่เคยเป็นฐานะลูกค้าหลักของ Dolce & Gabbana ได้หันไปสนับสนุนแบรนด์อื่น

  • การปรับตัว: หลังจากเหตุการณ์นี้ Dolce & Gabbana เริ่มมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดและพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชาวจีน

บทเรียนจากเหตุการณ์

เหตุการณ์ของ Dolce & Gabbana ใน Milan Fashion Week 2019 เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับแบรนด์แฟชั่นอื่นๆ

  • ความ sensitivity ทางวัฒนธรรม: แบรนด์แฟชั่นต้องมีความละเอียดอ่อนและเคารพในความหลากหลายทางวัฒนธรรม
  • การรับฟังเสียงจากลูกค้า: แบรนด์ต้องใส่ใจและรับฟังเสียงตอบรับจากลูกค้า

เหตุการณ์นี้ทำให้ Dolce & Gabbana ประสบกับผลกระทบอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม

บทเรียนที่ได้จากเหตุการณ์นี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อแบรนด์แฟชั่นในอนาคต

Giorgio Armani: A Timeless Icon of Italian Fashion

Giorgio Armani เป็นชื่อที่คุ้นเคยในวงการแฟชั่นระดับโลก

เขาเป็นนักออกแบบชาวอิตาลีผู้ก่อตั้งแบรนด์ Armani ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องความหรูหรา ความเรียบง่าย และคุณภาพที่ยอดเยี่ยม

Armani เริ่มต้นอาชีพของเขาในฐานะนักออกแบบเสื้อผ้าสำหรับแบรนด์อื่นๆ

หลังจากนั้นเขาก็ได้ก่อตั้งแบรนด์ Armani ของตัวเองในปี 1975 และสร้างสรรค์คอลเลกชั่นเสื้อผ้า menswear ที่โดดเด่น

คอลเลกชั่น menswear ของ Armani มักจะเน้นความเรียบง่าย ความสบาย และการตัดเย็บที่สมบูรณ์แบบ

เสื้อสูทของ Armani ได้รับการยกย่องว่าเป็นมาตรฐานทองคำในวงการแฟชั่น menswear

นอกจาก menswear แล้ว Armani ยังออกแบบ womenswear, accessories และ fragrances Armani เป็นหนึ่งในนักออกแบบแฟชั่นที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก

แบรนด์ Armani เป็นที่นิยมในหมู่คนดังและบุคคลสำคัญทั่วโลก

Giorgio Armani ได้รับรางวัลและเกียรติยศมากมายจากผลงานของเขา